การรักษาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ (ED) ด้วย Shockwave Therapy, ฮอร์โมน และสเต็มเซลล์
อาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ หรือ Erectile Dysfunction (ED) เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในผู้ชาย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ แต่สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกช่วงวัย ปัจจัยที่ทำให้เกิด ED มีทั้งทางกายภาพ เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ รวมถึงปัจจัยทางจิตใจ เช่น ความเครียด และภาวะซึมเศร้า ในปัจจุบัน มีการพัฒนาเทคโนโลยีและวิธีการรักษาใหม่ๆ ที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น หนึ่งในนั้นคือการใช้ Shockwave Therapy การปรับฮอร์โมน และการใช้สเต็มเซลล์เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศ

1. การรักษาด้วย Shockwave Therapy
Shockwave Therapy เป็นวิธีการรักษาที่ไม่ต้องผ่าตัด โดยใช้คลื่นเสียงความถี่ต่ำ (Low-Intensity Extracorporeal Shockwave Therapy: LI-ESWT) กระตุ้นการไหลเวียนเลือดและกระตุ้นการสร้างหลอดเลือดใหม่ในบริเวณอวัยวะเพศชาย วิธีนี้มีจุดเด่นคือปลอดภัย ไม่เจ็บปวด และไม่มีผลข้างเคียงร้ายแรง
กลไกการทำงาน:
- กระตุ้นการสร้างหลอดเลือดใหม่ (Neovascularization)
- เพิ่มการไหลเวียนของเลือดในบริเวณอวัยวะเพศ
- ฟื้นฟูเนื้อเยื่อที่เสื่อมสภาพ
ข้อดี:
- ไม่ต้องผ่าตัด
- ไม่มีการใช้ยาเคมี
- เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อยารักษา ED เช่น Viagra หรือ Cialis
ข้อจำกัด:
- ต้องทำการรักษาต่อเนื่องประมาณ 6-12 ครั้ง (ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ)
- ผลลัพธ์อาจไม่ถาวร ต้องทำการรักษาเพิ่มเติมในอนาคต
2. การรักษาด้วยฮอร์โมน
การรักษาด้วยฮอร์โมนเน้นไปที่การปรับระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) ซึ่งเป็นฮอร์โมนหลักที่มีบทบาทสำคัญต่อสมรรถภาพทางเพศ หากผู้ป่วยมีภาวะขาดฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน การเติมฮอร์โมนนี้สามารถช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศได้
รูปแบบการให้ฮอร์โมน:
- ยาฉีด
- ยาเม็ด
- เจลหรือแผ่นแปะที่ผิวหนัง
ข้อดี:
- ปรับสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย
- ช่วยเพิ่มพลังงาน ความมั่นใจ และสมรรถภาพโดยรวม
ข้อจำกัด:
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง เช่น มะเร็งต่อมลูกหมาก
- ต้องได้รับการติดตามผลและปรับปริมาณอย่างใกล้ชิดจากแพทย์
- อาจมีผลข้างเคียง เช่น การเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด
3. การรักษาด้วยสเต็มเซลล์
สเต็มเซลล์ (Stem Cells) เป็นเซลล์ที่มีความสามารถในการเปลี่ยนแปลงและซ่อมแซมเซลล์ที่เสื่อมสภาพ การใช้สเต็มเซลล์ในการรักษา ED เน้นไปที่การฟื้นฟูเนื้อเยื่อและหลอดเลือดในบริเวณอวัยวะเพศ
กลไกการทำงาน:
- กระตุ้นการสร้างหลอดเลือดใหม่
- ซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหาย
- เพิ่มความยืดหยุ่นของเนื้อเยื่อในบริเวณอวัยวะเพศ
วิธีการรักษา:
- การเก็บสเต็มเซลล์จากไขมันหรือไขกระดูกของผู้ป่วยเอง
- การฉีดสเต็มเซลล์เข้าสู่บริเวณอวัยวะเพศ
ข้อดี:
- เป็นการรักษาที่ใช้เซลล์ของร่างกายผู้ป่วยเอง ลดความเสี่ยงในการเกิดอาการแพ้
- ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน
ข้อจำกัด:
- ค่าใช้จ่ายสูง
- ยังอยู่ในระยะทดลองและการศึกษาวิจัย
- ต้องดำเนินการในสถานพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญ


ภาพ X-Ray แสดงก่อน-หลังการรักษาด้วย Shockwave
การเลือกวิธีการรักษา
การเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมสำหรับ ED ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น สาเหตุของอาการ ความรุนแรงของโรค สุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย และงบประมาณ การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นสิ่งสำคัญเพื่อประเมินวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุด
สรุป
การรักษา ED ด้วย Shockwave Therapy ฮอร์โมน และสเต็มเซลล์เป็นทางเลือกที่น่าสนใจและมีความทันสมัย โดยแต่ละวิธีมีข้อดีและข้อจำกัดแตกต่างกัน ผู้ป่วยควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกแนวทางที่เหมาะสมกับตนเอง ทั้งนี้ การดูแลสุขภาพทั่วไป เช่น การควบคุมน้ำหนัก การออกกำลังกาย และการลดความเครียด ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพของการรักษาได้เช่นกัน
ที่ Jin Wellness by THG สยามพารากอน เราพร้อมให้คำปรึกษา และให้บริการโดยทีมงานมืออาชีพ และแพทย์มากประสบการณ์ในการรักษาโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศโดยเฉพาะ ด้วยการให้บริการอย่างมืออาชีพ วางแผนการรักษาอย่างต่อเนื่อง และพื้นที่ให้บริการสะดวกสบาย เป็นส่วนตัว
ปรึกษาเราได้ที่
โทร 0979139999
Line @jinwellnessbythg
